Elle Fashion Week เวียนมาบรรจบอีกครั้งหนึ่งช่วงตั้งแต่ 11-14 ตุลาคม 2555 บริเวณลานหน้า Central World ได้ถูกเนรมิตเป็นรันเวย์ระดับชาติไปเรียบร้อยแล้ว
โชคดีได้มีโอกาสมาเปิดหูเปิดตางานใหญ่ระดับนี้ แถมได้ตั๋วมาดูตั้ง4โชว์ ใจจริงอยากดูทุกโชว์เลยแต่ว่าการที่ต้องมารอระหว่างรอบนานๆ ทำให้ความอยากลดลงฮวบ เลยเลือกเฉพาะที่อยากมาก คือ Playhound, Vatit Itthi, Theatre และ Kwankao
บริเวณงานมีการกั้นเป็นสองส่วน ส่วนแรกแค่ยื่นตั๋วและลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ แล้วจะมีที่นั่งกลางแจ้งพร้อมจอขนาดใหญ่ไว้รับรองให้เรารอจนกว่าจะถึงเวลาแสดง เราสามารถเดินเล่นบูธสปอนเซอร์ต่างๆฆ่าเวลาได้ ปีนี้มี Chevrolet ที่มาพร้อมรถรุ่นใหม่ที่จูวิญญอน จอห์นวิญญูโฆษณานะฮ้าฟ, Magnum ก็มาแจกไอติมฟรี แต่ไอติมละลายเป็นน้ำเลยเพราะอากาศอบอ้าวจัด, ฝั่ง W hotel คนเยอะมากเพราะเสิร์ฟค็อกเทลฟรี ใครจะไม่อยากเข้าไป แต่เค้าไม่ได้ปล่อยเข้าทุกคนนะ เฉพาะคนที่ได้ wristband เท่านั้น ก็อาศัยทักคนไปทั่วมั่วเข้าไปจนได้, Stella ก็แจกเบียร์ฟรี, Dtac ก็มาเปิดตัวบริการใหม่ Deezer และสำหรับลูกค้าดีแทคสามารถทดลองใช้งานได้นาน2เดือน
เป็นปกติของงานแฟชั่นโชว์ที่จะต้องเลท ไม่รู้ทำไม โชว์แรกของงานจาก Playhound ก็ช้าไปประมาณ45นาที คาดว่ายังซ้อมไม่เสร็จ แถมกว่าจะเกณฑ์มนุษย์เป็นพันคนเข้ามานั่งครบได้ก็ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง แล้วยังมีโฆษณาจากบรรดาลูกค้าผู้น่ารักบนจอข้างในอีก แทบหลับคาที่นั่ง
โชว์ Playhound ดูแล้วเพลินๆ เสื้อผ้าเป็นแนวลำลองใส่ได้จริง ลายแบบเก๋ๆมีมาให้เห็นตลอด ลูกเล่นสีสันสดใสที่รองเท้าก็สะดุดตา การออกแบบการเดินก็น่าสนใจ มีการเล่นกับบานพับกระจกเงาด้านข้างเวทีทำให้ตื่นเต้นตลอดเวลา
เอาภาพลายเส้นมาลงในสูจิบัตรด้วย น่ารักมาก
สุดท้ายกับการเปิดตัวดีไซน์เนอร์ออกมาแบบเก๋ๆ โดยนั่งมาใน Chevrolet ที่มีการพ่นลายทั้งด้านนอกด้านในลามไปถึงล้อ เพื่องานนี้โดยเฉพาะ
โชคดีที่ได้นั่งแถวหน้าเพราะเค้ามีของแจกชาวแถวหน้า นั่นก็คือแว่นตาโพราไรซ์สำหรับเหล่าแฟชั่นนิสต้า มีสลักตัว P ที่เลนส์ด้านขวาและตัว H ที่เลนส์ซ้าย
รอบที่สองได้ดู Vatit Itthi ซึ่งเป็นคิวที่สองของวันที่สอง รอบทุ่มครึ่งแต่กว่าจะได้เข้าดูเกือบสองทุ่มครึ่ง โชว์ถูกแบ่งเป็นสองตอน ตอนแรกเป็นคอคเลคชั่นปกติ ตอนที่สองเป็นคอลเลคชั่นชุดแต่งงาน
โชว์สุดท้ายคืนวันศุกร์เป็นของ Theatre หน้าบัตรเข้าชมได้สามทุ่มเป็ดได้ดูเกือบห้าทุ่มเองงงง ได้ยินว่าเสียเวลาเปลี่ยนพรมเป็นชั่วโมง พอเดินเข้าไปในเต๊นท์ก็ได้กลิ่นเทียนหอมที่เค้าจุดบิ้วบรรยากาศ มีแอบเคืองเล็กน้อยเพราะจริงๆเป็ดควรได้นั่งแถวหน้าเพราะถือบัตรแถวหน้า แต่เข้าช้าไปนิดเดียวที่นั่งก็เลยเต็ม (ได้งัยฟะ ก็มันระบุเลขนิ) เลยอดได้เทียนหอมที่เค้าแจกเฉพาะ front row เลย ตีมแฟชั่นชุดนี้คือ L’age d’Or หรือ Golden age มีสวยๆหลายชุดเลย
ทีมผู้สร้างสรรค์ผลงาน พี่จ๋อม พี่อาร์ต และน้องมิ้น
วันเสาร์ได้มาดูโชว์กลุ่มดีไซน์เนอร์หน้าใหม่ โชว์ KwanKao มาในตีมงาน Beyond Time แสงเสียงจัดเต็มประทับใจมาก
อิ่มแฟชั่นไปอีกนานเลย
Credit: IG #Ellefashionweek2012
เป็ดเตล็ด 