อร่อยไทยๆสไตล์บ้านกลางกรุง

บ้านกลางกรุง ร้านอาหารที่มีชื่อเดียวกับหมู่บ้าน ตั้งอยู่บนถนนพระราม3 ใกล้ๆ Future Mart เป็นร้านที่เปิดมานานมากแล้ว อาหารอร่อยเหมือนเดิมไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไป แถมอาหารออกเร็วทันใจ ใช้ pda ออเดอร์อาหารเหมือน mk เลย เมนูแนะนำร้านนี้ ปลาบู่ทอดราดซีอิ๊ว ปลาทอดกรอบได้ใจ ซีอิ๊วเค็มกำลังดีจนอดใจไม่ไหวที่จะซดเป็นน้ำแกง

สลัดกระดาษเป็น appetizer signature dish สามารถสั่งเป็นชิ้น(25บาท) แต่ต้องสั่งอย่างน้อย4ชิ้น รสชาติจะออกหวานๆน้ำสลัดที่เค้าคลุกกับไส้ผลไม้อยู่ข้างใน

ส้มตำปูไข่ดอง ขอบอกว่าจานใหญ่มาก

นกกระจอกเทศผัดพริกไทยดำ เนื้อนุ่มอร่อย ไม่เหม็นสาบ

ค่าเสียหาย 5 คน

All day breakfast at Cafe Tartine

มาอีกจ้าแล้วร้านอาหารแนว brunch breakfast น่ารักๆ ร้านชื่อ Cafe Tartine อยู่ในซอยร่วมฤดี ติดกับร้าน Hyde & Seek เลย ร้านนี้เป็นสีชมพูววววว์แบบที่พี่ตูนกล่าวไว้

หิวโฮกตอนบ่ายสี่โมง มื้อนี้ขอจัดเต็มค่า กินควบ3มื้อเลยงานนี้ เมนูยังเก๋ไก๋

จานแรก Croque Monsieur (190 บาท) เสิร์ฟชิ้นใหญ่สะใจพร้อมผักเคียงจานนิดนึง ชีสฟูรสชาติผ่านเกณฑ์ความพึงพอใจ

จานที่สอง Eggs Benedict (220 บาท) ได้ไข่สองฟอง มีมันฝรั่งเคียงจานมาน้อยๆ รสชาติก็ผ่านนะ กลางๆ

ของหวาน Chocolate pumpkin อร่อยกว่าที่คิด ไม่หวานจนเกินไป

ค่าเสียหายเบาๆ

Relax after work at Fire & Dine bar and bistro

Asiatique กลายเป็นแหล่งพบปะสังสรรค์สุดฮิปแห่งใหม่ในย่านเจริญกรุง ช่วงนี้พิเศษกว่าเดิมตรงที่เค้าเอาชิงช้าสวรรค์ยักษ์แบบเดียวกับ London Eye มาให้คนเสียตัวชมวิว ค่าขึ้นกระเช้าไฮโซที่ติดแอร์นี้สนนราคาที่200บาทต่อคน

ร้านอาหารที่นี่มีเยอะแยะไปหมด วันนี้เลือกร้าน Fire & Dine bar and bistro โกดัง 10 เป็นร้านเครือเดียวกับ Wine Republic บรรยากาศในร้านก็ดูวอร์มๆ ตกแต่งมีสไตล์ และมีนักร้องเล่นสด ชอบตรงนี้แหละ

มาช่วง Happy Hour ที่ร้าน Fire & Dine สั่งคอกเทล 1 แก้ว แถมฟรี 1 แก้ว ตั้งแต่ร้านเปิดถึง 7pm และอีกทีก็ 10.30pm เราก็เลยสั่งอาหารทานเล่นนนนนนไปด้วย เล่นหนักจริงๆรอบนี้

เฟร้นฟรายพร้อมชีสและเกรวี Poutine (160 บาท) อร่อยเพลินๆ

Pizza เตาถ่าน สั่งแบบครึ่งครึ่งได้

Ebiko cream sauce (240 บาท) อร่อยยกนิ้วให้เลย เปลี่ยนเส้นเป็น angel hair ยิ่งเข้ากัน อร่อยจนขอเบิ้ลอีกจาน

Risotto (240 บาท) ฉุนชีสไปหน่อย ทานไม่หมดเลย

ค่าเสียหาย 4 หัว

เฉาก๊วย Hakka ของดีจากไต้หวัน

ไม่ได้เดินสยามตั้งนาน เจอร้านไอติมเกล็ดหิมะร้านใหม่เป็นแฟรนไชส์มาจากไต้หวัน Hakka ตั้งอยู่ตรงข้าม Watson เดินชอปมาเมื่อยๆเลยแวะนั่งพักเท้าและเติมพลังด้วยสารอาหารหวานเย็นชื่นใจซะหน่อย ร้านนี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องเฉาก๊วย

เริ่มจากเลือกรสเกล็ดหิมะตามชอบใจ มีรสชาเขียว ชานม เฉาก๊วย วันนี้ขอลองรสชานมหิมะ แล้วถ้าสั่ง size M (50บาท) จะได้ free 2 toppings ถ้าสั่ง size L (70บาท) ได้ free 3 toppings

Topping ก็มีให้เลือกเยอะประมาณหนึ่ง ขอลองเพิ่มพุดดิ้งนมกับเงาะ แล้วทางร้านก็เพิ่มเฉาก๊วยให้ลองชิมฟรี เลยกลายเป็นได้ 3 toppings

ขั้นตอนสุดท้ายให้เลือก topping sauce จะราด นม Hakka หรือ ชอคโกแลต

รสชาติใช้ได้เลย คุณภาพโอเค ราคารับไหว คราวหน้าคงต้องสั่ง size L แล้วเพื่อความสะใจ วันนี้อิ่ม topping ไปเลย พุดดิ้งอย่างเยอะ

สงบในดินแดน Duc de Praslin Belgium

ท่ามกลางความวุ่นวายบนถนนสุขุมวิท ขอแอบแวะมานั่งจิบโกโก้ใจกลางกรุง ที่ RSU tower สุขุมวิท 31 ชั้น1 มีร้านน่านั่งชื่อแปลกหู Duc de Praslin (ดุ๊ค เดอ พลาแรง)

บรรยากาศในร้านก็แอนทีคนิดๆวินเทจหน่อยๆ เหมาะกับการมานั่งอ่านหนังสือ ทำงานที่ใช้สมาธินิดนึง จะไม่เหมือน Starbucks หรือ Au Bon Pain ที่คนจะพลุกพล่านเสียงดัง

ในร้านนอกจากจะมีเครื่องดื่มพวกชา กาแฟ โกโก้ แล้ว ก็มีขายขนมหวาน มัฟฟิน ชอคโกแลต

ก็เลยลองสั่ง dark signature (95บาท) ซึ่งเป็น hot chocolate มาทานคู่กับ macaroon รส passion fruit (40บาท)

ชอคโกแลตร้อนเสิร์ฟพร้อมกับชอคโกแลตพราลีนและทรัฟเฟิล รสชาติไม่แย่ ไม่ขมปี๋และไม่ได้ข้น ดื่มง่ายดี แต่ไม่ฟินเท่าไหร่ ส่วนมาการองก็ไม่หวานมาก เปลือกไม่นิ่มจนเกินไป ที่เปลือกจะมีเกล็ดน้ำตาล เพิ่มรสชาติดี
.
ถ่ายของตกแต่งร้านน่ารักๆมาฝาก

คิดถึงไก่ต้อง Bonchon chicken

ช่วงนี้กินไก่บอนชอนบ่อยมาก เพื่อนก็งงว่าติดใจอะไรนักหนา ต้องลองมาโดนเองจริงๆ เจ้าร้านอาหารสัญชาติเกาหลีร้านนี้เมื่อก่อนต้องถ่อไปทานที่ Seen space ทองหล่อ ตอนนี้มาเปิดที่ Central World ชั้น6 และ Siam Complex ชั้นใต้ดินแล้ว ดีใจเพราะอยู่ใกล้ออฟฟิศ หนีออกไปกินได้บ่อยขึ้น อาหารจานแรกที่ห้ามพลาด คือ ไก่ทอด หนังกรอบ รสเข้มข้น ยิ่งทานคู่กับข้าวเหนียวยิ่งอร่อย (เราสามารถเลือกได้ว่าจะทานคู่กับ ข้าวเหนียว ข้าวสวย หรือ โคลสลอว์)

Bonchon fries (100บาท) เฟร้นฟรายสูตรของร้าน พิเศษมีชีสโรยหน้ามาเพิ่มรสชาติ

ข้าวผัดกิมจิ สั่งเป็น lunch set (180บาท) คุ้มดีนะ ต่างกันไม่กี่สิบบาทเอง จานนี้ก็อร่อยถูกใจ รสกลมกล่อม ไม่เผ็ดไม่เปรี้ยวเกินไป

ซุปซุนดูบุกิมจิ อร่อยแซ่บรสเข้มข้นถึงใจ สั่งแบบ lunch set (190 บาท) มีข้าวให้ด้วย เน้นปริมาณให้อิ่มกันไปเลย 555

รวมค่าเสียหาย 4 คน

ถ้ามาหลังเลิกงานจะต้องโดนโซจูลิ้นจี่ แต่มากลางวันก็เกรงใจเจ้านายบ้างอะไรบ้าง 555

อย่าพลาด ROAST coffee & eatery

เป็นอีกร้านยอดฮิตที่คนมาลองเยอะ เลยต้องขอลองกะเค้าด้วย ร้าน ROAST ตั้งอยู่ที่ทองหล่อ 13 Seen Space ชั้น 2 ขึ้นบันไดด้านหน้ามาร้านอยู่ซ้ายมือ ถ้านำรถมาก็ฝากรถด้านล่างได้ มีบริการ valet parking หรือเอาไปจอด J avenue แล้วแอบไปปั๊มบัตรใน villa market ได้ ถ้าจะให้ดีควรโทรจองโต๊ะก่อนจะได้ไม่เสียเวลารอนาน 02-1852865
Mon-Thu เปิด 10am-11pm
Fri-Sat เปิด 9am-11pm
Sun 9am-10pm
บรรยากาศในร้านจะเป็นแนวอบอุ่น นั่งสบายๆ โต๊ะใหญ่ไม่เบียดเสียดกะคนข้างๆ วันที่มานี้คือศุกร์กลางคืน มีร้องสดด้วย นักร้องเสียงดีร้องแนวเบาๆเพลินๆ ชอบมาก

เมนูทำเหมือนเป็นหนังสือพิมพ์ฝรั่ง โก้จริงๆ แอบเอากลับบ้านมาด้วยเพราะชอบมาก จริงๆจะได้ศึกษาเมนูอย่างละเอียดล่วงหน้าว่าคราวหน้าจะทานอะไร

ถ้ามาทานตอนสายๆคงจะสั่ง Egg benedict ของโปรด จานเด็ดที่นี่คือ Crab cake benedict แต่มาทานตอนสองทุ่มคิดว่าไม่ค่อยเหมาะ ระหว่างรออาหารก็ทานขนมปัง อร่อยทั้งขนมปังและเนย แต่ไม่กล้าทานเยอะ มันตัดกำลัง และน้ำนางเอก ชาสตอเบอรี่น้ำผึ้งที่มีสตอเบอรี่รูปหัวใจ

เริ่มต้นจาก Caesar salad (240บาท) ส่วนตัวก็ให้ผ่าน ไม่รู้จะชมจะติอะไร มีไก่ย่าง เบคอน ไข่ แปลกตรงใส่ไข่มาให้ด้วยนี่แหละ ไข่ดิบปลายๆเกือบจะมะตูมละ

แกล้มด้วย New England clam chowder (180บาท) เทียบในเมืองไทยก็ให้ผ่าน ทำรสชาติแบบถูกปากคนไทย ในซุปจะมีมันลูกเต๋าหอมอร่อยดี แต่ถ้าเทียบกะออริจินอลก็ยังถือว่าไม่ใกล้เคียงเท่าไหร่

สั่งแอพมาทานเล่นบ้าง Quesadilla (240บาท) ข้างในเป็นไก่ ผักโขม เคียงจานด้วยซัลซ่าและผักรอคเก็ต อร่อยติดดาว เอาไปห้าดวงเลย

จานหลักทาน Italian sausage Penne (240บาท) ชอบตรงใส่ผักรอคเก็ตกับมะกอก ไส้กรอก house made อร่อยมาก แต่แอบมันไปนิดนึงเลยเลี่ยนๆ

ของหวานที่พลาดไม่ได้ Strawberry waffle (220บาท) ฟินกว่าทานที่ After You อีกนะ อร่อยตั้งแต่แป้งที่นุ่ม ขอบกรอบกรุบกริบ ครีมกับสตอเบอรี่สดหวานมันฉันคือเธอ ที่พีคสุดก็คือไอติมวานิลลา สั้นๆ “เริ่ด”

นอกจากนี้ก็มีไวน์ ค็อกเทล เบียร์สารพัดสำหรับผู้ชอบความมึนเมา แต่เราไม่เน้นเมาเราเน้นอิ่มอร่อย

พิซซาเตาถ่าน Mama Dolores แจ่ม!

พิซซ่าเตาถ่านเป็นหนึ่งในอาหารที่ได้ยินทีไรก็น้ำลายสอ ถ้าพูดถึงร้านดังที่อร่อยๆในกรุงเทพก็ต้องเป็น พิซซ่าลันตาแถวข้าวสาร ร้าน Scoozi ที่เริ่มมีหลายสาขาแล้ว ร้าน Basilico ย่านสุขุมวิท ร้าน Maria restaurant แต่วันนี้จะพาไปทานร้านชื่อ Mama Dolores ตรงซอยเย็นอากาศ สาทร

บรรยากาศร้าน อยากจะร้องว้าวตั้งแต่ยังไม่เข้าร้าน นึกว่าไปเที่ยวทะเลเลย ชิลล์มาก ไม่เหมือนอยู่ในกรุงเทพเลย แค่เลี้ยวจากสาทรซอย1หรือเข้าทางซอยงามดูพลี ซอยร้านอาหารจันทร์เพ็ญฝั่งพระราม4 ตรงเข้ามาเลี้ยวซ้ายตรงเซเว่นแล้วตรงมาเรื่อยๆเจออีกเซเว่นก็เลี้ยวขวา ประมาณสองร้อยเมตรร้านอยู่ด้านขวามือ ที่ร้านมีที่จอดค่อนข้างจำกัดนะ ไม่เกิน10คัน

ครัวเปิดโล่ง เห็นเตาถ่านอันใหญ่เบิ้มกลางร้านกันจะจะเลย

พิซซ่าขนาด 12 นิ้ว (99บาท) ที่เราสามารถเลือกหน้า topping ตามใจชอบ ราคาก็บวกตามจำนวนสิ่งที่เราใส่ ถาดแรกใส่ pesto, salami, pepporoni

French fried ของทานเล่นที่อร่อยไม่ใช่เล่น ซอสเป็น thousand island แบบมีพริกนิดๆเพิ่มรสชาติ

ซีซ่าร์สลัด ก็อร่อยใช้ได้เลยนะ

สปาเกตตี้คาร์โบนาราแฮม กำลังดีแบบไม่ข้นหนืด

อันนี้เป็นอาหารแนวเมดิเตอเรเนียนชื่อ Shakshouka แต่เค้าบอกว่าคนไทยชอบสั่งจานนี้ก็เลยสั่งมาลองบ้างเพราะเป็นคนไทย รสชาติก็โอเคแต่ยังไม่ตรึงใจ ออกแนวลาซานญ่าในซอสมะเขือกินกับแป้งนาน (nan)

Falafel ทอดซะเกรียมเชียว แต่อร่อยดี

คำบรรยายอาหาร

เจ้าของร้านเดินมาเสนอของหวานให้ลองชิม มันคือ Calzone ข้างในไส้ white chocolate ข้างบนโรยมะพร้าวป่น เสิร์ฟพร้อมไอติมวานิลลา ตอนแรกว่าจะไม่ลองชิมเพราะไม่ชอบกลิ่นมะพร้าวเป็นการส่วนตัว แต่ทนไม่ได้เพราะทุกคนบอกอร่อย พอกินเข้าไปคำแรกเท่านั้นแหละ ช้อนต่อไปก็ตามมาเรื่อยๆ

ที่นี่ไม่รับบัตรเครดิตนะจ้ะ อาหารอร่อยและไม่แพงเว่อร์ กระเพาะมีความสุขกันถ้วนหน้า แล้วจะกลับไปหาบ่อยๆ ในที่สุดก็ค้นพบสวรรค์แห่งใหม่ใกล้ที่ทำงาน 🙂

จิบชาหรูที่ TWG Tea Salon & Boutique

แวะไปทำธุระที่ Emporium และทานอาหารเย็น ก่อนกลับขอแวะหาของหวานล้างปากเบาๆที่ร้าน TWG Tea Salon & Boutique เห็นเพื่อนหลายคนไปลองมาแล้วก็อยากลองบ้าง ร้านตั้งอยู่ชั้น G บริเวณด้านหน้าห้าง มองจากบันไดเลื่อนฝั่งพลาซ่าจะเห็นชัดเจนที่ชั้นล่างสุด บรรยากาศร้านก็สวยงามตามท้องเรื่อง หรูหรามีระดับเหมาะกับเหล่าคุณนายที่มาชอปปิ้งที่เอ็มโพเรียม รอบร้านตกแต่งด้วยถังที่บรรจุใบชาจริงๆ เสาที่วางกระป๋องชาสามารถหมุนได้ด้วย เริ่ดสุด

ก่อนหน้านี้คิดว่าเค้าขายแต่ high tea set เพราะเห็นเป็นร้านชา แต่พอมาดูในเมนูก็มีให้เลือกทั้งคาวหวาน มีตั้งแต่สลัด เมนูอาหารเช้า เช่น egg benedict เครื่องดื่มก็แน่นอนว่ามีชาเป็นพระเอก มีเป็นร้อยชนิดให้เลือกจนตาลาย ถ้าไม่ดื่มชาก็มีเครื่องดื่มอย่างอื่น เช่น พวก mocktail (non-alcohol) ส่วนของหวานนางเอกคงหนีไม่พ้น มาการอง (macaroon) ที่ถูกจัดในตู้ดิสเพลย์ไว้ยั่วใจตั้งแต่แรกเข้า จัดมาลองเบาๆสองชิ้น เพราะราคามันไม่ค่อยเบาเท่าไหร่ ลูกละ 50 บาท ส่วนตัวชอบรสที่ค่อนข้างเปรี้ยวนิดนึง เช่น เลมอน หรือ แพชชั่นฟรุต เพราะว่าจะตัดกับความหวานของตัวขนมด้านนอก ยกนี้สั่ง Lemon Bush macaron and Bain Rose macaron มาลองทาน สิ่งหนึ่งที่ชอบคือรสชาติไม่หวานมาก ผิวแข็งไม่นิ่มเละ แต่รสเลมอนยังไม่จัดจ้านอย่างใจหวัง รสกุหลาบกลิ่นหอมทีเดียว แต่ถ้าคนไม่ชอบอาจจะคิดว่าทานโลชั่นทามือกลิ่นกุหลาบอยู่

ต่อด้วยไอติมอีกสองลูก ขอบอกว่าลูกใหญ่มาก ใหญ่ประมาณสเวนเซ่นลูกครึ่ง ลูกแรกสั่งรส Earl Grey Fortune (ในภาพลูกบน) เป็นคนแพ้คำว่าเอิร์ลเกรย์ เห็นเป็นต้องสั่งมาชิมทุกที รสนี้เค้าเอาไปผสมชอคโกแลตเป็นเบส ทำให้รสชอคโกแลตค่อนข้างกลบรสชาเอิร์ลเกรย์ที่มันมักจะหอมบางๆ เลยไม่ประทับใจเท่าไหร่ เพราะรู้สึกธรรมดา ลูกที่สอง Napoleon tea เป็นวานิลลาผสมถั่วแมคคาเดเมีย ทานแล้วเพลินๆ แต่ก็ไม่ได้ชอบมาก ที่เริ่ดที่สุดอยู่ตรจแผ่นสีชมพูด้านบน อย่านึกว่าเป็นแค่น้ำตาลแผ่นแข็ง มันผสมมาจากน้ำรากบัว อร่อยมาก หวานหอมละมุนลิ้นทีเดียวเชียว

วันนี้ทานแค่นี้พอ เพราะอิ่มจากอาหารเย็นมาแล้ว เช็คบิลเจอราคาน้ำแร่เข้าไปแทบกระอักเลือด ขวดละ 110 บาท เจี๊ยกกกก แถมบวก 10% service charge ทานเล่นๆกันไปเกือบห้าร้อย

กลางวันกินข้าวมันไก่ไป30บาทเอง ห้วยยย

มื้อเฮลตี้ที่ VistaKitchen

ไม่รู้ว่าเคยได้ยินเรื่องการรับประทานอาหารตามหมู่เลือดกันรึเปล่า วันนี้จะพาไป Vistakitchen ร้านอาหารที่ใส่ใจว่าคุณเลือดกรุ๊ปอะไร ร้านนี้อยู่ชั้น3ที่ตึกวีรสุบนถนนวิทยุ ฝั่งเดียวกับ All Seasons เปิดทุกวันตั้งแต่สิบโมงเช้าถึงหนึ่งทุ่ม

ในเมนูอาหารจะมีบอกว่าอาหารแต่ละจานเหมาะกับเลือดกรุ๊ปอะไร เวลาสั่งอาหารพนักงานเค้าจะถามเลยนะว่าเราเลือดกรุ๊ปอะไร อย่างเรากรุ๊ปโอก็ควรเน้นอาหารประเภทเนื้อๆ

เมนูก็มีแบบอาหารปกติและอาหารพิเศษประจำแต่ละวัน

ระหว่างรออาหาร ก็มีทิปส์ดีๆให้อ่านเล่น เช่น ลักษณะนิสัยโดยรวมของคนแต่ละหมู่เลือดเป็นอย่างไร ก็ตรงบ้างบางข้อนะ

หรือวิธีออกกำลังกายตามหมู่เลือด เฮ้ย เพิ่งรู้ว่ามีแบ่งแบบนี้ด้วย

มาลองอาหารคนเลือดโอกัน ดีที่เพื่อนที่ไปก็โอเลยแย่งกินได้ จานแรกของเพื่อนร่วมขบวนการ คือ พอร์คชอป มาพร้อมโครเกต์ฟักทอง โอ้วมายก๊อด อร่อยฝุดฝุด

จานต่อมาของเราเอง ข้าวยำสามสี ไม่รู้ดอกไม้กินได้ป่าวนะ เลยไม่กล้ากิน เป็นงัยละจานนี้เฮลตี้สุดพลัง เยอะถึงขั้นกินไม่หมด

สาเหตุที่ทานไม่หมดเพราะของทานเล่นจานนี้ ลาบไก่ข้าวเหนียวข้าวกล้อง อร่อยมากกกกก กดไลค์สิบแปดที ข้าวเหนียวอร่อยแบบไม่เคยรู้สึกที่ไหนมาก่อน

ขนมปังแป้งสเปล์ทที่เค้าพราวลี่พรีเซ้นต์ว่าดีจริง แอบจิกกินไปนิดเดียวเพราะอิ่มมาก

เช็คบิลสิริรวมแล้วราคาสบายกระเป๋า น้ำเปล่าขวดละ 15 บาท แถมไม่มี service charge ก็โอนะสำหรับร้านระดับนี้ มองเผินๆอาจจะคิดว่าแพงละสิ